คันดินพังทลาย มวลน้ำเจ้าพระยา ทะลักท่วมชุมชนเหนือเขื่อน ชาวบ้าน 100 หลังคาเรือน ได้รับผลกระทบ บางรายบ้านชั้นเดียวต้องมาอยู่บนถนน

วันที่ 6 ต.ค.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยายังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับ กรมชลประทาน ปรับเพิ่มอัตราการระบายน้ำผ่านทางด้านท้ายเขื่อนและทางกรมชลประทานยังหน่วงน้ำเอาไว้ ในระดับ 17.00 เมตร/รทก. เพื่อลดผลกระทบต่อพื้นที่ทางด้านท้ายน้ำ

ล่าสุด พื้นที่ ตำบลธรรมามูล อ.เมือง จ.ชัยนาท ซึ่งเป็นพื้นที่ทางด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยา มวลน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา ไหลทะลักเข้าท่วมในพื้นที่ ม.4 ต.ธรรมามูล เนื่องจากคันดินที่ใช้กันน้ำเกิดพังทลาย เจ้าหน้าที่ไม่สามารถนำเครื่องจักร เครื่องมือ รวมไปถึงกระสอบทรายเข้าไปทำการอุดได้

ส่งผลทำให้มีพื้นที่ชุมชนที่อยู่อาศัย และพื้นที่ทางการเกษตรถูกน้ำท่วม ชาวบ้านกว่า 100 หลังคาเรือนได้รับผลกระทบ นอกจากนี้ทางเทศบาลตำบลธรรมามูล นำรถแบคโฮ ลงพื้นที่เสริมสร้างคันดินตามจุดเสี่ยงต่างๆที่น้ำอาจจะกัดเซาะไหลเข้าท่วมพื้นที่ชุมชนเพื่อป้องกันไม่ให้มวลน้ำเข้าท่วมขยายเป็นวงกว้าง

นางดำรง เนียมทอง ชาวบ้านในพื้นที่ ม.4 ต.ธรรมามูล อ.เมือง จ.ชัยนาท เปิดเผยว่า น้ำเริ่มไหลเข้าท่วมตั้งแต่ช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา เนื่องจากมีมวลน้ำไหลกัดเซาะคันดินที่ใช้กั้นน้ำ แต่ยังโชคดีที่ทางเทศบาลประกาศให้ยกสิ่งของขึ้นสูงทำให้เก็บของได้ทัน แต่ยังมีความกังวลใจเรื่องของปริมาณน้ำหากมีปริมาณน้ำท่วมสูงขึ้นกลัวว่าบ้านนั้นจะทรุด

ด้าน น.ส.พรธนวรรณ ทองคำ นายกเทศมนตรีตำบลธรรมามูล เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ น้ำเริ่มไหลเข้าท่วม ในพื้นที่ ม.4 ตั้งแต่เมื่อช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา และระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยก่อนหน้าทางเทศบาลได้ประกาศแจ้งเตือนให้ชาวบ้านขนสิ่งของไว้ยังที่สูง

เบื้องต้น มีบ้านเรือนของชาวบ้านกว่า 100 หลังคาเรือนถูกน้ำท่วม โดยชาวบ้านบางรายที่มีบ้านชั้นเดียวต้องอพยพครอบครัวมาอาศัยอยู่บนถนน ทางเทศบาลได้กางเต็นท์ และเดินกระแสไฟฟ้า เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน

นอกจากนี้ทางเทศบาลตำบลธรรมามูล นำรถแบคโฮ ลงพื้นที่เสริมสร้างคันดินตามจุดเสี่ยงต่างๆในตำบล เพื่อป้องกันไม่ให้พื้นที่น้ำท่วมนั้นขยายวงกว้าง