ทนายตั้ม จับมือ อี้ แทนคุณ แจ้งจับ 6 บอส ดิไอคอน ฉ้อโกงประชาชน ระบุ เน้นหาสมาชิกลงทุน ไม่เน้นขายสินค้า เชื่อ 4 บอสติดคุกแน่

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 11 ต.ค.2567 ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความ พร้อมด้วย นายแทนคุณ จิตต์อิสระ หรือ อี้ แทนคุณ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ปคบ.

เพื่อยื่นหลักฐานแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทดิไอคอน กรุ๊ป ระดับบอส จำนวน 6 ราย ในความผิดฐาน ฉ้อโกงประชาชน กู้ยืมเงินทึ่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พรบ.คอมพิวเตอร์ และฟอกเงิน

ทนายตั้ม จับมือ อี้ แทนคุณ แจ้งจับ 6 บอส ดิไอคอน ฉ้อโกงประชาชน ระบุ เน้นหาสมาชิกลงทุน ไม่เน้นขายสินค้า เชื่อ 4 บอสติดคุกแน่

ทนายตั้ม จับมือ อี้ แทนคุณ แจ้งจับ 6 บอส ดิไอคอน ฉ้อโกงประชาชน ระบุ เน้นหาสมาชิกลงทุน ไม่เน้นขายสินค้า เชื่อ 4 บอสติดคุกแน่

นายษิทรา กล่าวว่า วันนี้มาแจ้งดำเนินคดีกลุ่มบอสศิลปินดาราต่าง ๆ ประกอบด้วย บอสพอล บอสกันต์ บอสแซม บอสมีน บอสปีเตอร์ และ บอสหมอเอก ในความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชน, กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, พ.ร.บ.คอมฯ และ ฟอกเงิน

นายษิทรา กล่าวต่อว่า ซึ่งเป็นการแจ้งเอาผิดต่อตัวบุคคลเพราะมีพยานหลักฐานที่รับมาจากผู้เสียหาย ซึ่งระบุว่า ธุรกิจดังกล่าวไม่มีสินค้าอยู่จริง แต่เป็นการหลอกให้มาลงทุนสมัครคอร์สเรียนออนไลน์ คล้ายกับแชร์ลูกโซ่

นายษิทรา กล่าวอีกว่า กลุ่มผู้เสียหาย 4 คน ที่มาร้องเรียนกับตน เล่าให้ฟังว่า หากใครมีเงิน มีฐานะ ก็จะได้เข้าพบเจอตัวบอสพอล โดยมีการนัดทานข้าว ระหว่างนั้นก็จะมีบอสต่าง ๆ สลับหมุนเวียนเข้ามาพูดคุย ท่ามกลางบรรยากาศสุดหรูภายในห้อง ที่มีแต่อุปกรณ์ราคาแพง

นายษิทรา กล่าวด้วยว่า ก่อนชักชวนให้ร่วมลงทุน โดยไม่มีการพูดถึงตัวสินค้า อ้างว่าลงทุนแล้วเดี๋ยวก็รวย เพราะบริษัทจะจัดการให้ทั้งหมด ระหว่างพูดคุยจะมีผู้อ้างเป็นตัวแทนเสื้อผ้าแบรนเนมด์ เอาสินค้าเข้ามาขายให้ถึงห้อง ทำให้เหมือนเป็นลูกค้าสำคัญต้องบริการถึงที่

นายษิทรา กล่าวว่า สำหรับผู้เสียหายที่มาร้องเรียนกับตนถูกหลอกให้ร่วมลงทุนไป 3 คน คนละ 2.5 แสนบาท แต่เวลาผ่านมา 1 ปี ยังไม่เคยได้รับสินค้าแต่อย่างใด ซึ่งแน่ชัดว่าเป็นการฉ้อโกงประชาชน

นายษิทรา กล่าวต่อว่า ส่วนกลุ่มศิลปินดาราต่าง ๆ ที่เป็นระดับบอสนั้น แม้จะมีแถลงว่า ไม่ได้เป็นผู้ลงนาม หรือถือหุ้น เป็นแค่ผู้ช่วยการตลาด แต่เมื่อทำงานมาเป็นปีก็ย่อมรู้ระบบการจัดการของธุรกิจทุกอย่าง จะมาอ้างว่าไม่รู้เรื่องไม่ได้ ยิ่งออกมาแบบนี้ยิ่งตอกย้ำว่าเป็นการหลอกลวงประชาชน เป็นธุรกิจแชร์ลูกโซ่

นายษิทรา กล่าวว่า และกรณีบอสมีนที่เคยพูดบนเวที ว่า ขายของได้เป็นล้านชิ้น อยากถามว่าของมีจริงหรือเปล่า มีใครเคยซื้อไปบ้าง เพราะเท่าที่ทราบสินค้าไม่มีอยู่จริง แค่หลอกขายสมาชิกให้มาร่วมลงทุน ที่สำคัญคือผู้ที่เข้าไปร่วมลงทุนกับบริษัทดังกล่าวนั้น ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะเชื่อมั่นในตัวศิลปินดาราที่เป็นบอส เพราะคิดว่าคนดังระดับนี้คงไม่หลอกแน่นอน

นายษิทรา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังเชื่อว่า กลุ่มบอสศิลปินดาราเหล่านี้ ได้รับผลประโยชน์จากการหลอกสมาชิกมาร่วมลงทุน ไม่น้อยกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ อย่างบอสกันต์ ที่มีนาฬิกาหรูไม่ต่ำกว่า 30 เรือน มูลค่ารวมกันไม่ต่ำกว่า 150 ล้านบาท ลำพังอาชีพพิธีกรอย่างเดียวจะมีรายได้ขนาดนี้ได้อย่างไร

นายษิทรา กล่าวว่า แต่เพราะส่วนแบ่งจากดิไอคอน จึงทำให้มีรถหรู บ้านหรู และทรัพย์สินอื่น ๆ จึงอยากให้ตำรวจช่วยตรวจสอบเส้นทางการเงินของบรรดาบอสเหล่านี้ด้วยเพราะมีผู้ได้รับความเดือดร้อนจำนวนมาก บางรายหนักจนถึงขั้นจะฆ่าตัวตาย

“จากพยานหลักฐานต่าง ๆ ผมเชื่อว่า บรรดากลุ่มบอส ต้องมีผู้ติดคุกแน่ ๆ ไม่ต่ำกว่า 4 คน อาทิ บอสพอล บอสกันต์ บอสปีเตอร์ และ บอสหมอเอก เพราะเรื่องนี้ตำรวจทำงานไว คดีฉ้อโกงประชาชน และฟอกเงิน จะต้องมีการยึดทรัพย์” ทนายดัง กล่าว

ด้าน นายแทนคุณ กล่าวว่า ธุรกิจนี้ไม่เน้นขายของ แต่เน้นหาคนมาร่วมลงทุน ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่บอสศิลปินดาราทั้งหลายจะไม่ทราบว่ามีกระบวนการนี้อยู่ในเครือข่าย เท่าที่ทราบมาดาราเหล่านี้จะได้รับส่วนแบ่งไม่ต่ำกว่า 10 เปอร์เซ็นต์

นายแทนคุณ กล่าวต่อว่า จนมีผู้เสียหายกว่า 700 รายที่หลงเชื่อนำเงินไปร่วมลงทุน ก็เพราะพวกเขาเชื่อมั่นในตัวศิลปินดาราเหล่านี้ ส่วนยอดเงินของบริษัทที่ได้รับจากผู้เสียหาย เชื่อว่าน่าจะได้หลายพันล้านบาทต่อปี

สำหรับบรรยากาศที่ศูนย์รับแจ้งความคดีหลอกผู้ร่วมลงทุนที่บริเวณชั้น 2 กองบังคับการปราบปราม พบว่ามีผู้เสียหายจากการลงทุนกับบริษัท The icon ทยอยเดินทางเข้ามาแจ้งความกันอย่างต่อเนื่อง

แต่ละคนจะหอบหลักฐานการลงทุนเข้ามาใช้เป็นหลักฐานเพื่อดำเนินคดี ส่วนใหญ่เป็นผู้ลงทุนระดับดีลเลอร์ ที่ต้องใช้เงินลงทุนถึง 250,000 บาท บางรายลงทุนถึง 4 ครั้ง หมดเงินไปกว่า 1 ล้านบาท แต่ได้ค่าตอบแทนมาเพียง 40,000 บาทเท่านั้น