โลกสะเทือน! เปิดเหตุผลประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ประกาศกฎอัยการศึก งงทั้งประเทศ
โลกสะเทือน! เปิดเหตุผลประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ประกาศกฎอัยการศึก งงทั้งประเทศ ผู้นำฝ่ายค้านปลุกประชาชน รวมตัวแสดงพลัง
วันที่ 3 ธ.ค.67 รอยเตอร์รายงานว่า ประธานาธิบดียุน ซอกยอล ผู้นำเกาหลีใต้ แถลงโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ประกาศใช้กฎอัยการศึก เพื่อกวาดล้างกลุ่มต่อต้านรัฐและฝักใฝ่เกาหลีเหนือ สร้างแรงกระเพื่อมและความตื่นตระหนกไปทั่วโลก
การประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างกะทันหันและประธานาธิบดียุน ไม่ได้ระบุเป้าหมายและขั้นตอนที่ชัดเจน โดยระบุเพียงว่าจะกวาดล้างกลุ่มผู้ต่อต้านรัฐบาลและบรรดากลุ่มผู้ฝักใฝ่เกาหลีเหนือที่ไร้ยางอาย ส่งผลให้มีนักการเมืองทั้งฟากรัฐบาลและฝ่ายค้านออกมาคัดค้านอย่างต่อเนื่อง
แรงกระเพื่อมที่เกิดขึ้นยังสร้างความตื่นตระหนกให้กับชาวเกาหลีใต้ เนื่องจากเป็นชาติที่เคยเผชิญกับการยึดอำนาจและเผด็จการมาก่อนที่จะกลายมาเป็นระบอบประชาธิปไตยช่วงปี 2523 และทำให้ค่าเงินสกุลวอนของเกาหลีใต้อ่อนค่าลงอย่างหนัก
ประธานาธิบดียุน กล่าวว่า ไม่มีทางเลือกนอกไปจากการใช้มาตรการข้างต้นเพื่อปกป้องรัฐธรรมนูญและสิทธิเสรีภาพของชาวเกาหลีใต้ หลังพรรคฝ่ายค้านที่มีเสียงข้างมากในสภาพยายามใช้กระบวนการทางรัฐสภานำประเทศชาติไปสู่วิกฤต
“ผมขอประกาศใช้กฎอัยการศึกเพื่อปกป้องเสรีภาพของเกาหลีใต้จากภัยคุกคามจากกองกำลังคอมมิวนิสต์เกาหลีเหนือ เพื่อกวาดล้างพวกต่อต้านรัฐที่นิยมชมชอบเกาหลีเหนือแสนชั่วช้า ซึ่งพยายามบ่อนทำลายเสรีภาพและความสุขของชาวเกาหลีใต้ รวมถึงเพื่อปกป้องรัฐธรรมนูญของเกาหลีใต้เอาไว้” ผู้นำเกาหลีใต้ ระบุ
การประกาศดังกล่าวสร้างความงุนงงไปทั่วเกาหลีใต้ เนื่องจากประธานาธิบดียุนไม่ได้ระบุชัดเจนถึงรายละเอียดมาตรการที่จะใช้ ขณะที่บรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน รวมถึงประธานสภา ที่จะเปิดสภาเป็นการด่วน ไม่สามารถเข้าอาคารได้ เพราะมีกำลังตำรวจเข้ามาปิดกั้นจำนวนมาก
นายอี เจเมียง ผู้นำพรรคฝ่ายค้านจากพรรคประชาธิปไตย ระบุว่า เกาหลีใต้กำลังจะอยู่ใต้การปกครองด้วยรถถัง รถหุ้มเกราะ ทหาร ปืน และมีด รวมถึงเศรษฐกิจของเกาหลีใต้จะถูกทำลายอย่างฟื้นกลับมาไม่ได้ ขอให้ประชาชนทุกคนจงออกมาที่รัฐสภาเพื่อแสดงพลัง
ทั้งนี้ ประธานาธิบดียุน ระบุถึงสาเหตุบางส่วนว่า มาจากการที่พรรคฝ่ายค้านยื่นญัตติปลดอัยการสูงสุดและไม่ยอมผ่านร่างงบประมาณประจำปีของรัฐบาล ซึ่งผู้นำเกาหลีใต้ ระบุว่า เป็นการบ่อนทำลายประสิทธิภาพการทำงานของรัฐ