“เอ็ม เอกชาติ” ปัดไม่มีเอี่ยวชวนเล่นพนัน แจงเพจปลอมทั้งหมด ยันรวยจากแข่งรถ-ขายทุเรียน
“เอ็ม เอกชาติ” ปฏิเสธ ข้อกล่าวหาชวนเล่นพนันออนไลน์ แจงไม่ใช่ตัวเอง เพจปลอมทั้งหมด ยันรวยจากแข่งรถ-ขายทุเรียน
จากกรณีที่ พนักงานสอบสวน สอท.1 ออกหมายเรียก “นายเอกชาติ มีพร้อม หรือ เอ็ม เอกชาติ ” เข้ารับทราบข้อหา ชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นพนันออนไลน์ โดย พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 เป็นคนสอบปากคำด้วยตัวเอง ซึ่งใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง
เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 3 ม.ค.2568 ที่บช.สอท. พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ กล่าวว่า จากการสอบปากคำ นายเอกชาติ ให้การปฏิเสธตลอดทุกข้อกล่าวหา ซึ่งในกรณีของนายเอกชาติ จากการตรวจสอบของตำรวจแล้วพบว่ามีบัญชี เพจเฟซบุ๊กทั้งหมด 3 เพจ ที่แนบลิงก์ชวนให้เล่นพนันออนไลน์ทั้งหมด 6 ลิงก์ ทั้งนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการชุดสืบสวนสอบสวนสำหรับคดีนี้ขึ้นมา เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แม้ว่าผู้ต้องหาจะให้การปฏิเสธก็ตาม
โดย นายเอกชาติ อ้างว่า เพจเฟซบุ๊กทั้ง 3 เพจ และมีการแปะลิงก์ชวนเล่นพนันออนไลน์ 6 ลิงก์ เป็นเพจปลอมทั้งหมด เจ้าตัวไม่ทราบเรื่องอะไรเลย ซึ่งเพจเหล่านี้มีการแปะลิงก์มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2564 แล้ว ซึ่งหลักฐานที่นายเอกชาตินำมามอบให้กับตำรวจวันนี้คือ หน้าเพจเฟซบุ๊กจริงของตนเอง ซึ่งจะมีเครื่องหมาย ติ๊กถูก สีฟ้า Meta Verified ที่จะต้องเสียเงินจ่ายรายเดือนให้กับ Facebook
และจากการตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่พบว่า เฟซบุ๊กจริงของนายเอกชาติ มีการแปะลิงก์เว็บพนันออนไลน์ แต่หลังจากนี้จะต้องให้กองเครื่องมือพิเศษ หรือ ตอท. ตรวจสอบย้อนหลังอย่างละเอียดอีกครั้งนึง และจะต้องตรวจสอบว่าเครื่องหมาย Meta Verified ที่อ้างว่า เป็นเฟซจริง ไม่มีการแปะเว็บพนัน ทั้งหมดมันคือคำกล่าวอ้างของผู้ต้องหา ซึ่งจะต้องไปตรวจสอบอีกครั้งว่า ก่อนมีและหลังมีเครื่องหมาย ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บพนันหรือไม่
ทั้งนี้ ได้แจ้งข้อหา พรบ.การพนัน มาตรา 12 ผู้ใดจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วย หรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ ผู้อื่นเข้าเล่น หรือเข้าพนันในการเล่น ซึ่งมิได้รับอนุญาต จากเจ้าพนักงาน หรือรับอนุญาตแล้ว แต่เล่นพลิกแพลง หรือ ผู้ใดเข้าเล่น หรือเข้า พนันในการเล่น อันขัดต่อบทแห่ง พระราชบัญญัตินี้ หรือกฎกระทรวงหรือข้อความในใบอนุญาต
ส่วนการตรวจสอบเส้นทางการเงิน ว่าเชื่อมโยงกับเว็บพนันหรือไม่นั้น ทางตำรวจไซเบอร์ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ แต่เบื้องต้นพบว่านายเอกชาติ จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และประกอบอาชีพทำสวนทุเรียน มีทรัพย์สินกว่า 50 ล้านบาท โดยได้นัดหมายนายเอกชาติไปส่งฟ้องต่ออัยการในวันที่ 13 ม.ค.นี้
อย่างไรก็ตาม กรณีรับแปะลิงก์เว็บพนันมีความผิดต่างกรรมต่างวาระ ซึ่งศาลจะสั่งจำคุก โดยไม่รอลงอาญาทันที จึงอยากฝากเตือนอินฟลูเอนเซอร์ ที่ตอนนี้ยังรับแปะลิงก์เว็บพนัน หรือ ทำคอนเทนต์ขยะ ตอนนี้ ตำรวจไซเบอร์เอาจริง ตามจับทุกกรณีแน่นอน
ขณะที่ นายเอกชาติ กล่าวว่า วันนี้ไม่ได้มีความกังวลใจอะไร ได้นำหลักฐานที่มี มามอบให้กับตำรวจหมดแล้ว พร้อมกับชี้แจงว่า เพจเฟซบุ๊กที่มีการโพสต์ลิงก์เว็บพนัน ตามที่ตำรวจได้แจ้งข้อหานั้น เป็นเพจปลอมทั้งหมด ตนมีเพจเฟซบุ๊กจริงเพียงเพจเดียว และยืนยันตัวตน ใส่เลขบัตรประชาชน และข้อมูลส่วนตัวอย่างละเอียด มีการเสียรายเดือนผ่านการ Meta Verify ของเฟซบุ๊กเรียบร้อยแล้ว จะมีเครื่องหมายติ๊กถูกที่ด้านหลังชื่อเพจ
นอกจากนี้ ตนเองยังเคยโพสต์แจ้งเตือนแฟนคลับในเพจ ว่ามีการปลอมเพจเฟซบุ๊กของตนเองขึ้นมานานหลายปีแล้ว และตนก็ได้แจ้งให้กับทางเพจ ลบเพจปลอมเหล่านี้ทิ้ง ซึ่งก็ได้ลบไปประมาณ 3-4 เพจ แต่ก็ยังมีคนปลอมเพจ ตนขึ้นมาทำแบบนี้อีก ยอมรับว่าในช่วงเวลานั้นตนไม่ได้ไปแจ้งความดำเนินคดีอะไร ที่คนเหล่านี้ทำให้ตนเสื่อมเสียชื่อเสียง เพียงแต่แจ้งไปทางเฟซบุ๊กเท่านั้น
ในวันนี้ นำหลักฐานทั้งหมดมาให้พนักงานสอบสวน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็จะนำไปตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป แต่มั่นใจในความบริสุทธิ์ของตนเอง ว่าไม่เคยโพสต์ลิงก์เว็บพนัน หรือรับจ้างโพสต์ลิงก์ใดๆ แม้ที่ผ่านมาจะเคยมีคนมาจ้างให้โพสต์ลิงก์เว็บพนัน เพราะตนเองมีชื่อเสียงเคยเป็นนักแข่งรถ แต่ตนเองก็รู้ดีว่าเป็นเรื่องผิดกฎหมาย จึงไม่เคยรับงาน
อย่างไรก็ตาม คดีเว็บพนันคดีเก่าที่ตนเองถูก ปปง. ยึดทรัพย์นั้น เพราะตนเองไปอยู่ในบ้านของผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมเท่านั้น ไม่ได้ตกเป็นผู้ต้องหาโดยตรง และไม่ได้เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ใดๆ และได้ชี้แจงทรัพย์สินกับทาง ปปง. ไปเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างขั้นตอนการต่อสู้คดี ซึ่งในเดือนก.พ.นี้ก็มีนัดไปขึ้นศาล
ส่วนที่สังคมตั้งข้อสังเกตว่า ตนเองร่ำรวยผิดปกตินั้น ยืนยันว่า มาจากการทำงาน มีสวนทุเรียน และเป็นนักแข่งรถ ก่อนที่นายเอกชาติจะเดินหนีสื่อมวลชนขึ้นรถกลับทันที