News

เมียนักธุรกิจดับปริศนา ตั้งข้อสังเกต ตัดขาดเป็น 10 ปี จู่ๆ น้องสาวโผล่ หรือได้เงินช้า แจงสภาพศพผัว

เมียนักธุรกิจดับปริศนา ตั้งข้อสังเกต ตัดขาดเป็น 10 ปี จู่ๆ น้องสาวโผล่ หรือได้เงินช้า แจงสภาพศพผัว

จากกรณีน้องสาวของ นายพิชิต กลีบจินดา หรือ “ต้น” อายุ 45 ปี เจ้าของธุรกิจสอนนวดแผนไทย เข้าร้องเรียนกับ ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หลังสงสัยว่าพี่ชายอาจถูกฆาตกรรมหรือถูกวางยา หลังบินไปหาภรรยาที่ จ.มหาสารคาม เมื่อวันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา ก่อนเสียชีวิตในวันที่ 16 เม.ย. โดยสภาพศพดูผิดปกติและแพทย์ลงความเห็นสาเหตุการตายไม่ชัดเจน จึงอยากเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้กับพี่ชาย ขณะเดียวกันก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 8 เม.ย.67 พี่ชายยังเคยถูกลอบยิงในพื้นที่รับผิดชอบของ สน.วังทองหลาง และคดีนี้ยังไม่สามารถจับตัวคนร้ายได้ อ่านข่าว น้องหอบรูป-กระดูกพี่ชายนักธุรกิจขึ้นโรงพัก คาใจคดีถูกยิง โยงปมตายผิดปกติที่สารคามหรือไม่

ล่าสุดวันที่ 19 พ.ค.67 ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถามข้อมูลกับภรรยาของ นายพิชิต หลังสามีเดินทางไปหาภรรยาเป็นคนสุดท้าย ก่อนเสียชีวิตที่ จ.มหาสารคาม เมื่อวันที่ 16 เม.ย. โดยทางครอบครัวฝ่ายชายจึงตั้งข้อสังเกตว่า นายพิชิต ถูกวางยาหรือไม่ ซึ่งภรรยา ยืนยันว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและไม่ได้วางยาสามี ส่วนน้องสาวของ นายพิชิต ที่ออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม ตนก็สงสัยว่าจู่ๆ ทำไมถึงออกมา ทั้งๆ ที่เขาได้ตัดขาดพี่ชายไปแล้วเป็น 10 ปี ไม่ได้เจอกันเลย เปลี่ยนทั้งชื่อทั้งนามสกุลไป อีกทั้งในวันงานศพเขาก็ไม่ได้ไปร่วมงาน แม้กระทั่งวันเผา จึงตั้งข้อสังเกตว่าที่ออกมาเรียกร้อง เพราะตนให้เงินช้าหรือไม่ แต่เป็นเงินในส่วนไหนขอไม่บอกรายละเอียด

ตนอยากรู้ว่า ถ้าติดใจกันตั้งแต่แรก ทำไมถึงไม่เอาศพไปชันสูตร เพราะตนไม่ได้ห้ามอะไรเลย และไม่เคยเร่งรีบให้เผาศพด้วย ตนก็รักสามี อยู่กินกันมานานกว่า 10 ปี แต่ด้วยประเพณีบ้านตน ตายลักษณะแบบนี้ จึงตั้งศพไว้ 3 วัน วันที่ 4 เผา ถือเป็นเรื่องปกติ

ส่วนที่ครอบครัวสงสัยว่าเธอเป็นคนวางยาหรือไม่นั้น ภรรยาของ นายพิชิต บอกว่า ไม่ได้รู้สึกเสียใจเลยที่ครอบครัวฝ่ายชายคิดแบบนั้น แล้วเมื่อถึงเวลาตนคงออกมาชี้แจงเอง แต่ในวันนี้ขอยืนยันว่า ตนไม่ได้ทำ เพราะสามีทั้งคน จะทำแบบนั้นได้อย่างไร เป็นทั้งพ่อของลูกด้วย ส่วนน้องสาวของสามีที่ออกมาเรียกร้อง ตนมองว่า พอเขารู้ว่าพี่ชายมีประกัน มีนั่นมีนี่ วันนี้คุณกลับออกมาเรียกร้องแบบนี้หรอ เกิดจะมารักพี่ชายทันทีเลยหรอ ที่ผ่านมาขนาดเค้กวันเกิด ตนเป็นคนสั่งเค้กให้ ให้พี่ชายเอาไปให้น้องสาวในวันเกิด พยายามจะให้ทั้ง 2 ฝ่ายคืนดีกัน เขายังไม่รับเค้กตนเลย ตัดพี่ตัดน้องไปตั้งนานแล้ว

ส่วนในช่วงที่สามีเสียชีวิต พ่อแม่ของสามีก็ไปที่โรงพักพร้อมกัน ตอนนั้นก็ไม่มีใครติดใจเอาความอะไร ก็ยังพูดคุยกับตำรวจเรียบร้อยดี ตนก็ไม่ได้ห้ามอะไรทั้งนั้น ครอบครัวเขาก็ไม่ได้ถามอะไรสักคำ แม้กระทั่งเรื่องของการจัดพิธีอะไรยังไง ส่วนครอบครัวที่ไปงานศพของสามี ก็มีพ่อแม่ น้องชาย ป้า และลูกของป้าอีก 2 คน แต่น้องสาวไม่ได้ไป

เมื่อถามถึงสภาพศพที่มีลักษณะผิดธรรมชาติ ดำคล้ำผิดปกติ มือหงิก น้ำตาไหลเป็นเลือดนั้น ภรรยาของ นายพิชิต ยืนยันว่าไม่มี ตำรวจและแพทย์ถ่ายรูปไว้ทั้งหมด ไม่มีมือหงิกงอหรือมีน้ำตาเป็นสายเลือด ถ้าเป็นแบบนั้นจริง อยากให้คิดว่าแพทย์จะลงสาเหตุมาแบบนั้นหรือไม่ แพทย์ต้องส่งพิสูจน์เลยหรือไม่ เป็นเรื่องดุลยพินิจของแพทย์และตำรวจว่าเห็นแล้วไม่มี

ส่วนที่ผ่าน นายพิชิต เป็นคนเสียงดัง กินเหล้า แต่จะถูกวางยาหรือไม่ ตนไม่ทราบ แต่ให้มองว่าคนเราจะเสียชีวิต มันไม่สามารถกำหนดวันได้หรือไม่ ตนก็ไม่รู้ว่าสามีจะเสียชีวิต เพราะแยกกันอยู่มานาน และตนก็มีเหตุผลของตนในการเลิกรา ถึงเวลาจะพูดอีกครั้ง ส่วนถ้าอยากรู้สาเหตุชัดๆ ขอให้ไปถามแพทย์

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *