เชียงรายวิกฤต มวลน้ำจากเชียงใหม่ ผ่านต.ท่าตอน ลึก 6 เมตร ไหลเข้าอ.เมืองเชียงรายแล้ว เจอ 2 ศพ ติดอยู่ในอาคาร เล็งหาเรือยางแล่นฝ่าน้ำเชี่ยว ช่วยคนตามชุมชน

เมื่อวันที่ 11 ก.ย.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากกรมทรัพยากรน้ำ โดยส่วนอุทกวิทยาที่ 1 เชียงใหม่ สำนักงานทรัพยากรน้ำที่ 1 แจ้งว่าระดับน้ำในแม่น้ำกกที่ไหลมาจากประเทศเมียนมาและเข้าสู่ อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ มีความลึกมากขึ้นตามลำดับ โดยเมื่อผ่าน ต.ท่าตอน มีความลึกเกือบ 6 เมตรนั้น

ล่าสุดมวลน้ำไหลเข้าสู่ อ.เมืองเชียงรายแล้ว และส่งผลกระทบไปตลอดริมฝั่ง โดยน้ำเข้าท่วมสำนักงานเทศบาลดอยฮาง ต.ดอยฮาง จนน้ำเข้าท่วมล้อมรอบอาคาร ขณะที่บ้านเรือนตามริมฝั่งถูกน้ำท่วมไปตลอดแนวจนถึงเขตเทศบาลนครเชียงราย

น้ำยังทะลักเข้าท่วมบริเวณเชิงสะพานขัวพญาเม็งราย เชื่อมระหว่างชุมชนบ้านให้กับ สภ.เมืองเชียงราย จนเจ้าหน้าที่ต้องปิดสะพานงดการสัญจรชั่วคราว น้ำยังเข้าท่วมบริเวณริมฝั่งที่มีบ้านเรือนชุมชน เช่น ชุมชนเกาะลอย ชุมชนรั้วเหล็ก ถนนพหลโยธินขาออกเมืองบริเวณแยกสหมิตร โรงเรียนเทศบาล 6 นครเชียราย ฯลฯ

ชาวบ้านต่างขนย้ายข้าวของไว้บนที่สูงอย่างฉุกระหุก ขณะที่ศูนย์ช่วยเหลือแรงงานข้ามชาติ จ.เชียงราย ได้จัดตั้งโรงครัวบริเวณที่การศูนย์ฯ อาคารอภิสแคว์ อ.เมืองเชียงราย เพื่อให้การช่วยเหลือผู้อพยพหนีน้ำท่วมมาจาก อ.แม่สาย

ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ที่ชายแดนไทย-เมียนมา อ.แม่สาย พบว่าเข้าสู่ภาวะวิกฤตเพราะระดับน้ำไม่ได้ลดลง แต่กลับมีระดับสูงขึ้น โดยบริเวณหน้าด่านพรมแดนจุดผ่านแดนถาวรข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 1 พบว่าน้ำเข้าท่วมถนนพหลโยธินลึกเข้ามากว่า 400-500 เมตรแล้ว

หลังจากคืนที่ผ่านมาเข้าท่วมถึงบริเวณหน้า สภ.แม่สาย เช่นเดียวกับภายในชุมชนต่างๆ พบว่าจากเดิมน้ำเข้าท่วมถึงชั้น 1 ของอาคารปรากฎว่าช่วงคืนที่ผ่านมาได้ทวมไปถึงชั้น 2 แล้ว ทำให้ชาวบ้านต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ช่วยเหลืออพยพออกไปโดยเฉพาะซอย 4 ซอย 6 ฯลฯ ถนนเหมืองแดง ซึ่งน้ำท่วมสูงท่วมศีรษะและยังไหลเชี่ยวกราก

แต่เนื่องจากการเข้าไปถึงเป็นไปด้วยความยากลำบากทำให้ชาวบ้านยังติดอยู่ตามจุดต่างๆ ท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ อาหารและน้ำดื่มก็เริ่มลดลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะซอย 4 ที่ชาวเมียนมาติดอยู่ในอาคารกว่า 30 คน และคนไทยตามอาคารต่างๆ ในซอย 6 อีกเป็นจำนวนมากบางคนสูงอายุ 90 ปี ยังอยู่บนอาคารชั้น 2-3 ขณะที่ทีมงานของศูนย์ช่วยเหลือแรงงานข้ามชาติ จ.เชียงราย แจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย หลังจากที่ทั้งหมดติดอยู่ในอาคารตั้งแต่วันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา

ด้านศูนย์บัญชาการเหตุการณ์น้ำท่วม อ.แม่สาย หารือกันอย่างต่อเนื่อง โดยระดมเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเข้าช่วยชาวบ้านให้ออกมาจากจุดวิกฤต และมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องจัดหาเรือยางที่มีความเบาสามารถแล่นไปบนกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวตามชุมชนต่างๆ ในเขตเทศบาล ต.แม่สาย ได้ จึงอยู่ระหว่างรวบรวมให้ได้เร็วที่สุดต่อไป

ขณะที่ได้จัดสถานที่พักพิงชั่วคราว สำหรับชาวบ้านที่หนีน้ำออกจากบ้านได้ทันบริเวณสำนักงานเทศบาลจำนวน 34 ราย และที่วัดพรหมวิหารอีก 37 ราย รวมทั้งหมด 71 ราย นอกจากนี้ศูนย์ฯ ยังแจ้งว่าจะมีมวลน้ำจากเขต อ.แม่ฟ้าหลวง ไหลลงสู่พื้นที่ ต.โป่งผา และ ต.โป่งงาม อ.แม่สาย จึงขอให้ประชาชนเตรียมความพร้อมรับมวลน้ำดังกล่าวเพิ่มเติมด้วย