ศธ.ตั้งกก.สอบ สาว สอบครูชื่อหาย อย่าด่วนสรุปว่าโกง แจงปมนามสกุลตรงกับผอ.ร.ร.
ศธ.แจง สาว สอบครูชื่อหาย สพม.สระแก้ว ตั้งกรรมการสอบละเอียด อย่าด่วนสรุปว่าโกง แจงปมนามสกุลตรงกับผอ.ร.ร. เยียวยาผู้เสียหาย ให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย
เมื่อวันที่ 13 ก.ย.67 นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะโฆษกกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยถึงกรณีข้อสงสัยเกี่ยวกับการสอบบรรจุพนักงานราชการตำแหน่งครู ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) จังหวัดสระแก้ว
โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อผู้เข้าสอบรายหนึ่งซึ่งมีรายชื่อลำดับที่ 1 ในการประกาศผลสอบครั้งแรก (9 กันยายน 2567) แต่กลับไม่ปรากฏในรายชื่อในบัญชี เมื่อมีการประกาศผลสอบฉบับใหม่ (12 กันยายน 2567) ทำให้ไม่ได้รับการบรรจุเป็นครูตามลำดับเดิมก่อนหน้านี้นั้น
เหตุการณ์ดังกล่าวได้รับความสนใจจากสาธารณชนอย่างกว้างขวาง กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) โดย พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศธ. และนายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมช.ศธ. ให้ความสำคัญต่อกรณีนี้เป็นอย่างมาก โดยกำชับให้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวอย่างตรงไปตรงมา ไม่ปกป้องใคร และยึดหลักความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างเคร่งครัด พร้อมเน้นย้ำถึงความตั้งใจแก้ปัญหาอย่างจริงจัง
นายสิริพงศ์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงขึ้น เพื่อพิจารณาและตรวจสอบทุกประเด็นที่เกี่ยวข้อง โดยศธ.ยืนยันว่าจะทำงานอย่างโปร่งใส หากพบว่ากระทำที่ผิดพลาดหรือทุจริตเกิดขึ้นจริง ผู้ที่เกี่ยวข้องจะต้องถูกดำเนินการลงโทษตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาทั้งนี้ ศธ. กำชับให้คณะกรรมการสอบสวนฯ ทำงานอย่างรอบคอบและตรวจสอบทุกขั้นตอนอย่างละเอียด เพื่อไม่ให้ละเลยรายละเอียดใดๆ นอกจากนี้ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศธ. ให้ความสำคัญในการดูแลผู้เสียหาย
โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณามาตรการเยียวยาและหาทางออกที่เหมาะสม เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้อย่างเร่งด่วนที่สุด พร้อมยืนยันว่าจะไม่ทอดทิ้งผู้เสียหาย และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างแท้จริง
นายสิริพงศ์ กล่าวว่า ขอให้สังคมและสื่อมวลชนช่วยกันตรวจสอบข้อมูลอย่างรอบคอบ และอย่าเพิ่งด่วนสรุปว่า มีการใช้วิธีแทรกแซงหรือทุจริตใดๆ เกิดขึ้นในการประกาศรายชื่อรอบใหม่ ส่วนกรณีที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับนามสกุลของผู้สอบ ที่ตรงกับนามสกุลของผู้อำนวยการโรงเรียนในจังหวัดใกล้เคียง อาจเป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับการสอบครั้งนี้
เนื่องจากเป็นคนละเขตพื้นที่ฯ ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในกระบวนการตรวจสอบของคณะกรรมการสอบสวนฯ ซึ่งจะดำเนินการอย่างละเอียด โปร่งใส เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ออกมานั้นสะท้อนถึงความเป็นธรรม และความชัดเจนในทุกประเด็น
“เราจะไม่เข้าข้างคนผิด และหากกระทำที่ไม่โปร่งใสเกิดขึ้นจริง ผู้กระทำความผิดจะต้องได้รับการลงโทษตามนโยบายของกระทรวงที่เน้นความยุติธรรมและโปร่งใส เราจะทำงานอย่างเต็มที่เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นในกระบวนการตรวจสอบและการแก้ไขปัญหานี้ และจะแจ้งความคืบหน้าให้ประชาชนได้รับทราบอย่างต่อเนื่อง” โฆษกศธ. กล่าว