คนเลี้ยงวัว วิ่งป่าราบ พบศพใต้ต้นสะเดา หนอนไต่ยั้วเยี้ย กลิ่นเหม็นคลุ้ง
คนเลี้ยงวัว วิ่งป่าราบ พบศพใต้ต้นสะเดา หนอนไต่ยั้วเยี้ย สิ่งกลิ่นเหม็นคลุ้ง คาดตายมาแล้วกว่า 1 สัปดาห์ เผยปมสลด เร่งส่งร่างชันสูตรหาสาเหตุ
เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 14 ก.ย.2567 ร.ต.อ.ภูริวัช พิลึก รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.บางระจัน รับแจ้งเหตุจากผู้ใหญ่บ้าน ม.5 ต.พักทัน อ.บางระจัน จ. สิงห์บุรี ว่า มีคนเลี้ยงวัวพบผู้เสียชีวิตที่บริเวณกลางป่า ต.พักทัน ห่างจากถนนคันบึงพักทันไป ประมาณ 800 เมตร จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลบางระจัน และ อาสาสมัครมูลนิธิวัฒนะสิงห์ จุดบางระจัน
ที่เกิดเหตุพบชาวบ้านจำนวนหนึ่งยืนออจับกลุ่มบริเวณถนนคันบึง เจ้าหน้าที่ต้องเดินเท้าเข้าไปในป่าประมาณ 800 เมตร พบร่างผู้เสียชีวิตชื่อ นายสมควร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 56 ปี อาชีพทำอิฐ เก็บของเก่า
สภาพศพงอเข่าครึ่งนั่ง ผูกคอกับต้นสะเดา สะพายกระเป๋าสีดำ เนื้อหนังเปื่อยยุ่ย หนอนไต่ยั้วเยี้ยกัดกินตามร่างกายส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้ว 7-8 วัน ตรวจค้นหลักฐานภายในกระเป๋า 2 ใบของผู้ตาย พบเงินสด 1,500 บาท พวงกุญแจ 1 พวง และเศษกระดาษ 1 แผ่น จึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบถาม นายสมบูรณ์ (ขอสงวนนามสกุล) คนเลี้ยงวัว ผู้พบศพคนแรก กล่าวว่า ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมาตนออกติดตามหาวัวที่เลี้ยงไว้ วัวได้แหกคอกหนีไปอยู่กลางป่า 1 ตัว ขณะเดินหาวัวพบคนผูกคอตาย จึงแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านทราบ
ต่อมา นางพิกุล (ขอสงวนนามสกุล) ภรรยาของผู้ตาย เดินทางมาถึง กล่าวว่า นายสมควรหายออกจากบ้านพร้อมรถจักรยานยนต์ เมื่อวันที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้ออกตามหาตามจุดต่าง ๆ ที่คิดว่านายสมควรจะไปแต่ไม่พบ
นางพิกุล กล่าวต่อว่า กระทั่งมาเจอกลายเป็นศพกลางป่า ทั้งนี้ คาดว่า นายสมควรอาจจะน้อยเนื้อต่ำใจมีปากเสียงกับคนในครอบครัว จึงออกจากบ้านเพื่อมาสงบสติอารมณ์ กระทั่งก่อเหตุสลดดังกล่าว
แพทย์เวรโรงพยาบาลบางระจันยัง ระบุสาเหตุการเสียชีวิตไม่ได้ และได้ส่งศพไปสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เพื่อผ่าพิสูจน์สาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป