แม่เมย์ใจสลาย เล่าวินาที น้องเอวา กำลังจะจากไป บอก “ถ้าหนูตายแม่ไปอยู่กับหนูได้ไหม”
แม่เมย์ใจสลาย เล่าวินาที น้องเอวา กำลังจะจากไป บอก “ถ้าหนูตายแม่ไปอยู่กับหนูได้ไหม” เผยความใจสู้ของลูก ยันไม่เคยเปิดรับบริจาค
วันที่ 19 ก.ย.67 แม่เมย์ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Natsuda Klinkham เป็นภาพแม่เมย์จับมือน้องเอวา เพื่อบอกลาครั้งสุดท้าย เพราะลูกนั้นเสียชีวิตลงแล้ว จากอาการป่วยมะเร็งต่อมหมวกไต ระยะสุดท้าย โดยแม่เมย์ระบุว่า “เดินทางไปรอแม่ที่ดาวก่อนนะลูก เดินไปตามทางสวนดอกไม้สวย ๆ ไม่เจ็บปวด ไม่ทรมานอีกแล้ว ลืมมันไปให้หมดเลยนะลูก ทิ้งความเจ็บปวดไว้ในชาตินี้ให้หมด พอแล้ว…. เกิดมาใหม่ขอให้หนูร่างกายแข็งแรง ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บนะ รักสุดหัวใจน้องเอวา” อ่านข่าว ต่อมา แม่เมย์ พร้อมญาติได้นำร่าง ด.ญ.ภัทรศยา กลิ่นขำ หรือน้องเอวา ไปทำพิธีรดน้ำศพที่วัดสระแท่น ต.นาดี อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี และในช่วงค่ำของทุกคืนจะมีพิธีสวดพระอภิธรรมศพ รวม 3 คืน และ วันอาทิตย์ที่ 22 ก.ย. เวลา 15.00 น. จะมีพิธีฌาปนกิจ
น.ส.ณัฐสุดา กลิ่นขำ หรือแม่เมย์ กล่าวว่า น้องให้เคมีบำบัดและฉายแสงจนครบกระบวนการที่หมอวางแผนให้ น้องป่วยเป็นมะเร็ง จะต้องให้คีโมแล้วต้องไปฉายแสง พอครบคอร์ส หมอนัด MRI เพื่อสแกนดูเชื้อ พบว่าเชื้อสงบดี ใช้เวลารักษา 8 เดือนแล้วเชื้อก็กลับมากระจาย ที่กลับมารักษาใหม่น้องปกติทุกอย่าง กินเก่ง พูดเก่ง เล่นได้เหมือนเด็กปกติ แต่ให้คีโมแล้วผมร่วง พูดปกติไม่มีเหนื่อย ไม่มีอะไรผิดปกติเลย ร่างกายก็ไม่ได้ผอมโซ เพราะเป็นเด็กที่กินเก่งมาก ตอนที่น้องจะจากไป น้องไม่ได้พูดอะไรเลย
เพราะเมื่อวานตอนเย็นยังเห็นน้องว่ายังดีอยู่ ไม่คิดว่าเพียงไม่กี่ชั่วโมง เขาก็ไปแล้ว ไม่ได้บอกลาอะไรกันเลย แต่ช่วงก่อนหน้านั้น ที่จะนิมนต์พระมาสวด น้องดูแย่มากๆ ดูไม่ดี ตนคิดว่าน้องคงไม่อยู่แล้ว เขาคงจะไปแล้ว จึงบอกลาลูก แต่วันนี้มันเร็วไปหมดตอนที่เขาไม่มีลมหายใจตนยังช็อก มาพูดตอนที่น้องไปแล้ว ถ้าน้องรับรู้ได้ อยากบอกว่า ไม่ต้องห่วง แม่จะใช้ชีวิตให้ดีที่สุด เพราะน้องเอวาห่วงตนมาก จะบอกลูกให้ไปรอแม่ก่อนเดี๋ยวแม่ตามไป เดี๋ยวได้เจอกัน เขาเก่งที่สุด ตนกับลูกสู้กันมามากแล้ว ไม่ติดใจอะไรแล้ว รู้สึกว่าเขาไปสบายจริงๆ
ก่อนที่น้องจะเสีย เขาปวดตัวมาก นั่งกอดกัน 2 คน ตนก็ถามลูกว่า เอวารู้ไหม ตายแล้วจะเป็นอย่างไร เอวาบอกว่า หนูไม่รู้ว่าตายแล้วไปไหน หนูรู้แค่ว่าหนูอยากอยู่กับแม่ ถ้าหนูตายแม่ไปอยู่กับหนูได้ไหม หนูไม่อยากอยู่คนเดียว ตนก็ได้แต่บอกลูกว่า หนูจะมีแม่อยู่ข้างๆ อยากรู้ความรู้สึกเขาตอนนี้เป็นอย่างไร เอวาถามว่าโรคของหนูเป็นหนักเลยเหรอ เราก็บอกว่าโรคหนูดื้อมากๆ แต่ไม่เป็นไร แม่จะอยู่ข้างๆ ลูกตลอด
น้องมีไข้สูง 39 องศา และอวัยวะของน้องเป็นหนอง ลิ้นเป็นห้อเลือด มีหนองไหลออกจากปาก ตนก็พาน้องไปแอดมิดเลย ก็ดูเรื่องติดเชื้อ พอติดเชื้อผ่าน ก็เป็นงูสวัดขึ้นตา น้องมีภูมิต่ำ เป็นตุ่มเล็กๆ ใสๆ พอตุ่มแตกก็ลามไปหมดเลย ตาปิด 2 ข้างไปเลย น้องก็สู้ขนาดตาปิดก็ยังกินข้าวได้ แม่จ๋าขอระบายสีได้ไหม น้องสู้จริงๆ ที่น้องสู้เพราะน้องอยากอยู่กับตนจริงๆ ตนก็รู้ว่าใจเขาไม่อยากไป แต่น้องใจสู้
ผู้สื่อข่าวได้ถามเรื่องมีเพจและใน TIKTOK โพสต์ว่า แม่น้องเอวา ขอเงินบริจาคเพื่อช่วยเหลือในการรักษาน้องจริงหรือไม่นั้น น.ส.ณัฐสุดา ก็ตอบว่า ตนไม่เคยขอบริจาคเงินแต่อย่างใดเลย เคยมีเพื่อนโทรมาบอกว่าใน TIKTOK เอาชื่อตนไปลงเพื่อขอบริจาค ซึ่งตนก็ได้ลงเพจไปแล้วว่า ไม่เคยขอบริจาคเงินแต่อย่างใด จึงขอให้สื่อมวลชนลงข่าวเรื่องนี้ให้ด้วย