ตากอากาศแบบใด หนุ่มนักธุรกิจร้องทนายอนันตชัย จ้างผู้รับเหมาสร้างบ้านตากอากาศ ราคา 7.5 ล้านบาท สุดท้ายได้ศาลาวัดแทน ขอดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

วันที่ 9 ต.ค.67 นายอนันต์ชัย ไชยเดช พานายพิทยา อายุ 21 ปี และดร.ดอลลี่ ซุย แม่ของนายพิทยา สองนักธุรกิจและเป็นผู้เสียหาย เข้าแจ้งความที่ สภ.กุมภวาปี เพื่อดำเนินคดีกับผู้รับเหมาก่อสร้าง สถาปนิก วิศวกร และผู้ออกแบบ ในข้อหาฉ้อโกง และ ผิดวิชาชีพตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 227 และมาตรา 341

ทนายอนันต์ชัย กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา นายพิทยาได้ว่าจ้างผู้รับเหมาให้ก่อสร้างบ้านพักอาศัย ค.ส.ล.1 ชั้น ในราคา 7,500,000 บาท โดยผู้รับเหมาได้มีเจตนาหลอกลวงผู้เสียหาย และปกปิดความจริงว่า จะเป็นผู้ยื่นแบบขออนุญาตก่อสร้างกับ อบต.ท่าลี่ อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ให้ถูกต้อง และจะมีวิศวกรคุมงานตามกฎหมาย พร้อมทั้งใช้วัสดุอุปกรณ์ให้เป็นไปตามสัญญา มีมาตราฐาน โดยเบิกเงินค่าก่อสร้างไปแล้วจำนวน 5.5 ล้านบาท

แต่ปรากฏว่าการก่อสร้างไม่เป็นไปตามแบบแปลน ไม่ได้มีการยื่นคำขออนุญาตก่อสร้าง และไม่มีวิศวกรควบคุมการก่อสร้าง อีกทั้งวัสดุอุปกรณ์ไม่ได้เป็นไปตามแบบในสัญญา และไม่ได้มาตรฐานถึงขั้น “โครงสร้างวิบัติ” ไม่สามารถใช้อยู่อาศัยได้

อันเป็นการผิดปกติวิสัยอย่างร้ายแรงของผู้มีวิชาชีพรับเหมาก่อสร้างโดยทั่วไป หลังจากผู้เสียหายได้ว่าจ้างให้วิศวกรคนกลาง มาตรวจสอบการก่อสร้างอาคารบ้านพักดังกล่าวเมื่อวันที่ 6 ก.ย.ที่ผ่านมา ดังนั้น จึงพาผู้เสียหายมาแจ้งความดำเนินคดีในวันนี้

ทั้งนี้ ทนายอนันต์ชัย ยืนยันว่า จะดำเนินคดีกับทั้ง 4 คนนี้ให้ถึงที่สุด เพื่อไม่ให้ไปก่อเหตุกับคนอื่นอีก และยื่นเรื่องให้สภาวิศวกร เพิกถอนใบอนุญาต ทั้งสถาปนิก วิศวกร และผู้ออกแบบ ฐานเป็นผู้มีวิชาชีพในการออกแบบ ควบคุม หรือทำการก่อสร้าง อาคารหรือสิ่งปลูกสร้างใด ๆ ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ โดยประการที่น่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่บุคคลอื่น

ผู้รับเหมารายนี้บอกว่าดำเนินคดีเขาไม่ได้ เพราะเป็นคดีทางแพ่ง แต่การกระทำดังกล่าว เข้าข่ายความผิดมาตรา 227 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ติดคุกหัวโตแน่

ทางด้านนายพิทยา เปิดเผยว่า ตนเองรู้จักกับผู้รับเหมารายนี้ จากพระที่แนะนำ ท่านบอกว่าเป็นผู้รับเหมาฝีมือดี รับผิดชอบต่องาน จึงมาซื้อที่ใน ต.ท่าลี่ อ.กุมภวาปี แล้วตัดสินใจสร้างบ้าน เพื่อเอาไว้เป็นบ้านพักตากอากาศ เพราะวิวดี ด้านหลังเป็นภูเขา โดยมีคุณแม่ คือดร.ดอลลี่ ซุย เห็นดีด้วย

จึงตกลงที่จะสร้างบ้าน แต่ปรากฏว่าผลที่ออกมาไม่ได้เป็นบ้านในฝัน ดูแล้วเหมือนศาลาวัดอย่างไรอย่างนั้น วันนี้จึงมากับทนายอนันตชัย แจ้งความดำเนินคดี กับผู้รับเหมา และผู้เกี่ยวข้องให้ถึงที่สุด เสียใจมากที่โดนหลอกแบบนี้ เพราะเราไม่เคยปฏิเสธเรื่องเงิน เบิกเท่าไหร่ให้เท่านั้น

ทางด้าน ดร.ดอลลี่ ซุย บอกว่า ตนเองและลูกชายทำธุรกิจที่ประเทศสิงคโปร์ เรามาซื้อที่ดินในอ.กุมภวาปี โดยลูกชายอยากได้บ้าน ก็ออกแบบบ้านให้แล้วเอามาให้ผู้รับเหมาดู ผู้รับเหมาบอกว่าบ้านแบบนี้สบาย เคยสร้างบ้านมาเยอะแล้ว เราก็อุ่นใจ แต่สุดท้ายจากบ้านในฝันกลายเป็นศาลาวัด ช้ำใจอย่างมาก

แบบนี้ไม่เอาแล้ว คงรื้อบ้านหลังนี้ออก และจะสร้างใหม่ แต่คงต้องรอดูสักระยะ ตอนนี้ให้เป็นเรื่องของทนาย ดำเนินคดีกับผู้รับเหมาและคนที่เกี่ยวข้องไปก่อน จากบ้านตากอากาศในฝันดูเป็นศาลาวัดแบบนี้ช้ำใจจริง เบิกเงินเท่าไหร่เราให้เท่านั้นไม่มีปฏิเสธ