โจรในคราบนักบุญ โกงกฐิน 6 แสน เจ้าอาวาส เครียดหนัก มรณภาพในกุฏิ
โจรในคราบนักบุญ หลอกเป็นเจ้าภาพกฐิน ลวงให้เจ้าอาวาสไปยืมคนอื่น โกงเงิน 6แสนบาท สุดท้ายติดต่อไม่ได้ เจ้าอาวาสเครียดหนัก ทิ้งจดหมายลา มรณภาพในกุฏิ
วันที่ 20 ต.ค. 2567 พ.ต.ต.ประชิด เสมาฤกษ์ สว.(สอบสวน) สภ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งเหตุ เจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา จบชีวิตตัวเองมรณภาพอยู่ภายในกุฏิ จึงไปตรวจสอบ พร้อมด้วยแพทย์โรงพยาบาลเสนา เจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจ เมื่อไปถึงพบพระครูวรวัฒน์ เขมากร อายุ 68 ปี มรณภาพ ตรวจสอบภายในห้องไม่พบร่องรอยการต่อสู้ ตามร่างกายไม่พบบาดแผลหรือการถูกทำร้าย
ทั้งนี้พบกระดาษ เขียนข้อความด้วยลายมือของเจ้าอาวาส ระบุว่า “เล็กโจรในเครื่องนักบุญ จองกฐินแล้วโกงเงิน เจ้าอาวาส 650,000 บาท โดยบอกให้อาตมากู้ยืมเงินคนอื่น แล้วบอกไปให้ในวัน ที่เก็บเงินขายหวย เพราะเอาไปลงทุนขายลอตเตอรี่ อาตมาหลงเชื่อจึงไปกู้ยืมเงินโยมมาให้ 9 ราย แต่เมื่อถึงเวลา นายเล็ก ผลัดเรื่อยมา ตั้งแต่กันยายนและหลัง และครั้งสุดท้าย ตั้งแต่ 1 ตุลาคม – 15 ตุลาคมก็ไม่นำมาให้จนอาตมาสุดเหลือทน จนต้องทำสิ่งที่ไม่คาดคิด ลงชื่อเจ้าอาวาสและเบอร์โทรโจรเล็ก”
นายเสน่ เยี่ยมอำพร อายุ 48 ปี ลูกศิษย์ของเจ้าอาวาสที่มาพบศพ กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าตนเห็นรองเท้าหลวงพ่อถอดวางอยู่บริเวณทางขึ้นศาลา จึงเอะใจว่าทำไมตื่นแต่เช้ามาที่ศาลา จึงเดินขึ้นไปดู พบเห็นร่างหลวงพ่ออยู่กับลูกกรง ตกใจมากจึงรีบไปแจ้งกับพระลูกวัด และชาวบ้านมาช่วยกันดู ส่วนศาลาที่เกิดเหตุเดิมเป็นกุฏิของเจ้าอาวาส ต่อมาท่านเจ้าอาวาสได้ดัดแปลงให้เป็นศาลาปฏิบัติธรรม
นางสุชาดา ตรีธนะ 69 ปี พี่สะใภ้ของเจ้าอาวาส กล่าวว่า หลวงพ่อบวชอยู่ที่วัดแห่งนี้มาตั้งแต่ปี 2538 จนถึงปัจจุบัน 30 กว่าปี ส่วนสาเหตุเบื้องต้นทราบว่ามีชายเข้ามาตีสนิทกับหลวงพ่อและบอกว่าจะขอเป็นเจ้าภาพกฐินในวันที่ 27 ตุลาคม 2567 และมาหาหลวงพ่อเกือบทุกวัน จนมาหลอกยืมเงินหลวงพ่อไปเป็นจำนวนเงิน 650,000 บาท หลังจากนั้นติดต่อชายคนดังกล่าวไม่ได้อีกเลยจึงทำให้หลวงพ่อเกิดจากความเครียด จึงก่อเหตุดังกล่าว
นายสมควร ไกรเพิ่ม อายุ 69 ปี ช่างปั้นที่มาทำงานอยู่ที่วัด กล่าวว่า ตนเป็นช่างปั้นพระพุทธรูปให้กับวัดแห่งนี้และรู้จักหลวงพ่อมากว่า 20 ปีแล้วหลวงพ่อ ได้พัฒนาปรับปรุงวัดให้สวยงาม ญาติโยมให้ความเคารพนับถือ โดยก่อนหน้าประมาณเดือนที่แล้วตนเห็นชายวัยกลางคนขับรถยนต์แต่งตัวดี
เข้ามาหาหลวงพ่อตีสนิทกับหลวงพ่อว่าจะมาขอเป็นเจ้าภาพกฐินให้กับทางวัดตอนนั้นตนเองก็ดูพฤติกรรมชายคนดังกล่าวว่าดูแปลกๆทำไมมาวัดแทบทุกวัน และยังมาขอนาฬิกาโบราณของหลวงพ่อว่าจะเอาไปซ่อมให้ ตนเคยเตือนหลวงพ่อว่าชายคนนี้ดูพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจ กลัวจะมาหลอกหลวงพ่อ
จนชายคนนั้นได้ยืมเงินหลวงพ่อไปเป็นจำนวนเงิน 650,000 บาทหลังจากได้เงินไปหายติดต่อไม่ได้อีกเลยและ เมื่อวานนี้ตนเห็นหลวงพ่อมีอาการซึมเศร้าและหลวงพ่อยังพูดว่าอยากตายตนยังห้ามหลวงพ่อไว้เลย ตนยังเขียนฝาผนังเตือนสติหลวงพ่อว่ารู้หน้าแต่ เว้นเอาไว้เพื่อเตือนสติ หลวงพ่อยังบอกว่าดีเลย
จนมาทราบอีกทีช่วงเช้าว่าหลวงพ่อเสียชีวิตแล้ว ซึ่งตนก็เสียใจ ส่วนเงินที่หลวงพ่อให้กับชายคนดังกล่าวไปนั้นเป็นเงินที่ยืมจากชาวบ้านมา เอาไปให้คนร้าย ส่วนคนร้ายเท่าที่ทราบเป็นคนจังหวัดสุพรรณบุรี อ้างตัวว่าเป็นผู้รับเหมา มีฐานะร่ำรวย และยังเป็นคนขายลอตเตอรี่
ด้าน นายประดิษฐ์ สังขจาย สส.พระนครศรีอยุธยา เขต5 เปิดเผยว่า ตนได้รับแจ้ง จึงเดินทางมาที่วัด ส่วนหลวงพ่อท่านเป็นพระที่ดีพัฒนาวัด สาเหตุก็เกิดจากการถูกหลอก จากชายสูงอายุว่าจะมาเป็นเจ้าภาพทอดกฐิน จนถูกยืมเงินไปเป็นจำนวนมากและติดต่อไม่ได้อีกเลย ซึ่งการกระทำ ถือว่าเป็นบาป หลอกได้แม้กระทั่งพระ
ต่อมาทางกรรมการวัด ได้มีการประชุม ถึงเรื่องการจัดกฐินวันที่ 27 ตุลาคม จะ ดำเนินการต่อและจะทำพิธีสวดพระอภิธรรมศพหลวงพ่อในวันที่ 21 ตุลาคม สวดเป็นเวลา 9 วันจนถึงวันที่ 30 ตุลาคมจะมีพิธีฌาปนกิจหลวงพ่อ
ด้านพนักงานสอบสวน จึงได้ถ่ายรูปบริเวณจุดเกิดเหตุไปเป็นหลักฐาน ก่อนจะให้ทางเจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจ นำร่างเจ้าอาวาส ส่งชันสูตรที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ จังหวัดปทุมธานี อย่างละเอียดอีกครั้ง