ฟังสองฝ่าย ผัวเมียลั่นเอาผิด รุ่นพี่กลุ่มเสื้อวินเทจ ทำร้ายผัว-ลวนลามเมียท้อง รุ่นพี่โต้ ผมไม่ได้ทำ
โหนกระแสวันนี้ พูดคุยกันกรณีดรามา ในวงการเสื้อวินเทจ หลังสาวคนหนึ่งออกมาแฉว่า ถูกรุ่นพี่ของแฟนหนุ่ม ที่อยู่ในวงการเสื้อวินเทจด้วยกัน ลากไปลวนลาม บังคับขอมีเพศสัมพันธ์
ฟอร์ซ เล่าว่า เมื่อประมาณ 4 เดือนที่ผ่านมา ตนได้รู้จักกับกลุ่มเสื้อวินเทจ และรุ่นพี่คนนี้ ชื่อ นายอินทรี โดยเขาบอกว่าให้เครดิตเสื้อมาก่อน เป็นเงินกว่า 190,000 บาท ตนจึงเอามาขาย แต่ขายยาก เสื้อยังไม่หมด
ตนถูกรุ่นพี่ข่มขู่จึงขับรถไปกับภรรยา เพื่อจะไปเจรจาหนี้ โดยระหว่างเจรจาตนบอกว่า ได้จ่ายไปแล้ว 30,000 บาท ที่เหลืออีก 162,450 บาท ตนจะหามาให้เพราะกำลังขายบ้านได้
นายฟอร์ซเล่าว่า ยอดหนี้เหลืออยู่ 1.6 แสนบาท ตนตัดสินใจว่าเอาบ้านไปขายมูลค่า 3 ล้านบาท โดยกะว่าจะได้เงินตอนทำสัญญาสัก 2-3 แสนบาท จึงนัดกับรุ่นพี่คนนี้ว่า จะเอาเงินไปคืนเขาในวันที่ 20 ต.ค. ที่ผ่านมา แต่พอถึงเวลาไปทำสัญญาเรื่องขายบ้าน ได้เงินมัดจำมาแค่ 2 หมื่นบาท
ตอนนั้นก็ไม่รู้จะทำยังไง แต่ในเมื่อนัดกันไว้แล้ว ก็ไปหาเขาตามที่นัด ตั้งใจจะไปเจรจาว่า เงินได้มาไม่ทัน แต่พอไปถึงยังไม่ทันได้คุยเรื่องเงิน เขาดื่มกินกันอยู่เมาเต็มที่แล้ว ยังไม่ทันได้คุยอะไร เขาชวนเราไปนั่งด้วย โดยออกจากร้านเหล้าแล้วมาย้ายมากินต่อกันที่หน้าโรงแรม
ตอนนั้น นายอินทรี เมามากแล้ว พอพาพี่อีกคนขึ้นห้องไปนอน เขาก็มาถามตนว่า วันนี้ใช่ไหมที่นัดมาคืนเงิน ตนก็บอกว่าใช่ แต่ยังหาเงินไม่ทัน ขอเลื่อนเป็นวันศุกร์ได้ไหม ถ้าไม่ได้ พี่เอารถผมไปก่อนก็ได้ เอากุญแจให้เขาไป แต่เขาไม่ฟัง เขาเงื้อมือตบตนอย่างเต็มแรง ตนพยายามขอร้องว่า ให้คุยกันดีๆก่อน เรื่องแบบนี้มันยังคุยกันได้
เขาก็พยายามรวบรวมสติ แล้วบอกว่าเรื่องที่กูตบมึง อย่าบอกเมียมึงนะ จากนั้นก็พาตนลงไปข้างล่าง คิดว่าจะจบแล้ว เพราะเขาดูเหมือนไม่ได้อารมณ์รุนแรงแล้ว
จากนั้นเขาบอกว่าให้เราทิ้งรถตัวเองไว้ แล้วไปรถเขาคันเดียวก็ได้ เพราะยังไงก็ต้องไปนอนที่บ้านเขาอยู่แล้ว พวกตนก็พากันไปขึ้นรถเขา พอเราขึ้นรถไปแล้ว เขาก็ลงมือทำร้ายเราสารพัด ทั้งตบ ถอดหัวเกียร์รถมาฟาด ทุบโทรศัพท์ของตนกับเมียจนแตก แล้วเอาโทรศัพท์มาทุบหน้าตนจนแตก
เขายังขู่ว่าจะเอามีดแทงขา ขู่ว่าจะหักนิ้วเมียตน แล้วขู่ว่าให้เมียของตนโทรหาแม่ บังคับให้แม่โอนเงินมาให้เดี๋ยวนี้ แต่แม่ก็กลัวว่าจะเป็นมิจฉาชีพ พอไม่ได้เงินมา เขาก็ซ้อมตนต่อถึง 9 โมงเช้า แล้วให้ตนเลือกว่า จะให้เขาขังใครไว้หนึ่งคน แล้วให้อีกคนไปหาเงิน ตอนแรกฟอร์ซเลิกให้เอาตัวเขาไว้ แล้วให้เมย์เป็นคนออกไปหาเงิน แต่อินทรีถามว่าเมย์ขับรถเป็นไหม เมย์ขับไม่เป็น จึงเลือกจะเอาตัวเมย์ไว้เป็นตัวประกันแทน แล้วให้ฟอร์ซเป็นคนไปหางินมาใช้หนี้
สุดท้ายเขาให้ฟอร์ซแยกไป ส่วนคุณเมย์ตนนั่งรถไปกับอินทรี ส่วนสามีไปนั่งรถอีกคัน ระหว่างนั่งรถไปนั้นไม่รู้ว่าเขาพาไปไหน ขับรถไปเรื่อยๆ อินทรี เริ่มด้วยการจับมือ ตอนแรกคิดว่าเป็นการให้กำลังใจ แต่กลับพยายามดึตนเข้าไปแนบอก พร้อมกับบอกว่า “รู้หรือยังว่าควรจะทำอย่างไร หากไม่ได้ใช้หนี้” ตนพยายามบอกว่าไม่รู้
หลังจากนั้นอินทรี ได้พยายามถลกกระโปรงตนขึ้นไป ตนก็พยายามปิดหลายครั้ง ยังโดนบังคับ บอกว่าอยากขอมีเพศสัมพันธ์ ตนไม่รู้จะทำอย่างไร ได้แค่กราบและขอร้องบอกว่า “หนูท้อง 8 เดือน” แต่อินทรี กลับไม่สนใจ ใช้มือล้วงเข้าไปในที่ลับ เป็นเวลาหลายชั่วโมงที่ตนพยายามปกป้องตัวเองทุกวิถีทาง กระทั่งเวลาประมาณบ่าย 2 ได้รับโทรศัพท์จากสามีว่าหาเงินได้แล้ว อินทรี จึงหยุดลวนลามตน
ส่วนตัวอยากถามว่าอินทรี ที่นับถือกันว่า “ทำไมทำได้ขนาดนี้ ทั้งที่ตนท้องถึง 8 เดือน”
นายอินทรี มาเล่าในมุมของตัวเองว่า น้องเป็นพ่อค้าก็จะมาเที่ยวอยู่แล้ว หนี้สินที่เกิดขึ้นก็มาจากเสื้อผ้าที่ขายกัน มีรุ่นพี่อีกคนนึงที่ชื่อ “ตั้ม” เดินทางมาล่วงหน้ามาดื่มกินกัน จากนั้นน้องก็มาถึงช่วงเวลาประมาณตี 1 รุ่นพี่ที่ดื่มอยู่ก่อนก็ได้ชวนไปดื่มกันต่อที่หน้าโรงแรมตรงที่รุ่นพี่พัก พอถึงเช้าตนก็หาโรงแรมให้น้อง แต่ด้วยความที่เป็นวันเสาร์ทำให้ไม่มีห้องว่าง
พอส่งรุ่นพี่ขึ้นห้องเสร็จตนก็ถามรุ่นน้องว่านอนบ้านตนไหม รุ่นน้องบอกว่าไปนอนที่บ้านตนก็ได้ จังหวะนั้นตนก็ถามเรื่องเงินเพราะไม่เห็นมีการพูดเรื่องเงินเลย พอบอกว่าไม่มีเงินตนก็เลยโมโห ได้ลงไม้ลงมือทำร้ายร่างกายไป อันนี้ตนยอมรับว่าการตบต่อยเป็นเรื่องจริง
ส่วนเรื่องที่กล่าวหาว่าตนขู่บังคับขอมีอะไรกับเมียรุ่นน้องที่ท้อง 8 เดือน อันนี้ไม่เป็นความจริง เพราะตนมีโรคประจำตัวอยู่ ตนมีความเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ จึงไม่จริงเลยที่ตนจะขอมีอะไรกับเมียรุ่นน้อง
หลังลงมือทำร้ายร่างกาย ตนก็พาขับรถวนไปคุยกันไป พอโมโหตนก็ทำร้ายซ้ำอีก ยอมรับว่าทำไปเพื่อจะข่มขวัญเพื่อจะเอาเงิน ทางรุ่นน้องบอกแต่ว่าจะหาเงินมาใช้หนี้ ตนจึงได้ถามว่าจะหาเงินมาจากไหน ซึ่งรุ่นน้องก็บอกว่าจะเอารถไปจำนำกับญาติ ตนก็ยังเป็นห่วงและยังได้ถามอีกว่าจะขับรถไหวไหม กลัวว่าจะหลับในแล้วพากันไปตาย จึงบอกให้ฟอร์ซไปคนเดียว แล้วให้เมย์ไปอยู่ที่บ้านก่อน
บ้านตนเป็นทาวน์เฮาส์ จึงได้บอกกับน้องไปว่า ถ้าจะเดินทางไปแล้วกลับ ก็ให้แฟนอยู่ที่นี่ก็ได้ จะได้ไม่ต้องลำบากในการเดินทาง ซึ่งหลังจากที่ตนใจเย็นลงแล้วยังได้บอกน้องว่า ถ้าติดใจเอาความเรื่องที่ตนทำร้ายร่างกาย ก็สามารถไปแจ้งความได้
กระทั่งประมาณ 8 โมงเช้า รุ่นน้องก็ได้ขี่รถออกไป และกลับมาช่วงบ่ายสอง พร้อมกับนำเงินมาใช้หนี้ 100,000 กว่าบาท ครบตามจำนวน ตนก็ไม่ได้ถามว่าเอาเงินมาจากใครหรือเอามาจากไหน
ในที่เกิดเหตุมีพยานหลายคน ไม่มีการฉุดกระชากลากตามที่บอก รุ่นน้องก็สามารถเดินเข้าออกบ้านได้ตามปกติ นั่งคุยกันตามปกติ และรุ่นน้องก็ยังมาขอโทษตน ตนก็ขอโทษกลับ คิดว่าเไม่มีอะไรแล้วเพราะต่างคนต่างจบ อันไหนที่ผิดตนก็ยอมรับผิด ส่วนอันไหนที่รุ่นน้องผิดจะยอมรับผิดไหมอันนี้ตนก็ไม่ว่าอะไร
เรื่องขืนใจไม่เป็นความจริงแน่นอน เพราะมีพยานอยู่ด้วยหลายคน และอยู่กันแบบ 24 ชั่วโมง ไม่ใช่พามาแล้วอยู่กันสองต่อสอง แบบนี้ตนก็เสียหาย อยากจะแก้ข่าวเพราะตนก็เป็นผู้บริสุทธิ์ ยอมรับผิดในส่วนที่ทำร้ายร่างกายเพราะทวงเงิน 100,000 แล้วไม่ได้แค่นั้นเอง
นายอินทรียืนยันว่า ตนไม่ได้ลวนลามน้องแน่นอน แต่เขามากุเรื่องใส่ความ เพราะแค้นที่ตนไปทำร้ายสามีเขา ถามว่าถ้าตนกักขังหน่วงเหนี่ยวเมย์ไว้ ทำไมเขาถึงไม่หนี ในเมื่อตนไม่ได้ล็อกบ้าน ไม่ได้มัดมือมัดเท้าเขา
ขณะที่เมย์บอกว่า ใครจะไปกล้าหนี เพราะว่าอินทรีเขานอน แล้วมีปืนอยู่ข้างตัวตลอด ที่บอกว่าตนมีปืน ก็ไม่มี ไม่เคยพูดเลยว่าให้ไปหยิบปืน
ขณะที่แจ็ค พยานอีกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ โทรมาเล่าว่า อินทรีพูดจริงๆ ว่าให้ไปหยิบปืนในรถ เพราะถูกเตือนว่ากินเหล้าเสียงดัง แต่อินทรีก็ยังยืนยันว่าไม่ได้พูด และไม่มีปืน
ขณะที่ ตุ๊กกี้ สุดารัตน์ บุตรพรม คนที่เข้ามาช่วยเหลือฟอร์ซกับเมย์ ยืนยันว่า ได้ฟังเรื่องราวจากน้องๆ สองคน ยังไงตนก็เชื่อคนท้องว่าเขาเจอเหตุการณ์แบบนี้ ไม่ได้มีเหตุผลอะไรที่เขาจะต้องมาโกหก ส่วนใครจะพูดจริง ใครจะโกหก ไปให้กฎหมายเอาความจริงออกมาดีกว่า จะพูดอะไรก็ไปพูดกันภายใต้กฎหมายดีกว่า