พ่อรีบส่งลูกไปเรียน เสียหลักพุ่งชนขบวน พระธุดงค์ มรณภาพ1 เจ้าคณะตำบลและพระลูกวัด เจ็บสาหัส เผยนาทีเกิดเหตุ คนขับก้มกราบขมา

วันที่ 10 พ.ย. 67 ร.ต.ท.มารุต นิตย์จินท์ รอง สว.สส(สอบสวน) สภ.เมืองจันทบุรี รับแจ้งจากศูนย์วิทยุกู้ภัยสว่างกตัญญูจันทบุรี ว่า เกิดเหตุรถยนต์ SUV เสียหลักพุ่งชนขบวน พระธุดงค์ที่กำลังเดินบิณฑบาต ส่งผลให้พระสงฆ์มรณภาพ 1 รูป และบาดเจ็บสาหัสอีก 2 รูป บนถนนสุขุมวิท ขาเข้าเมือง หมู่2 ต.คลองนารายณ์ อ.เมือง จ.จันทบุรี

ต่อมา ร.ต.ท.มารุต นิตย์จินท์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองจันทบุรี พร้อมแพทย์นิติเวช และอาสากู้ภัยสว่างกตัญญู เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบพระพนัส ทิเมที อายุ 26 ปี มรณภาพอยู่ริมถนน

นอกจากนี้ยังมีพระที่ได้รับาดเจ็บ 2 รูป คือ พระครูประโชติ รัตนสุนทร เจ้าอาวาสวัดโคกยาง และยังดำรงตำแหน่ง เจ้าคณะตำบลโคกยาง อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ และ หลวงตาจันท์ พระลูกวัด ซึ่งทั้ง 2 รูปได้รับการนำส่งโรงพยาบาลทันที

จากการตรวจสอบพบรถยนต์SUV อีซูซุ สีบรอนซ์ ทะเบียนกรุงเทพฯ จอดอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 30 เมตร สภาพด้านหน้ารถพังเสียหาย โดยมีชายคนขับ พร้อมลูกสาวอายุประมาณ 10 ขวบ และได้เข้าก้มกราบขอขมาพระสงฆ์ที่มรณภาพ

จากการสอบถาม พระธุดงค์ เผยว่า คณะธุดงค์ทั้ง 14 รูป เดินทางมาจากวัดโคกยาง อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ โดยก่อนหน้านี้ได้ธุดงค์มาจาก จ.ระยอง และแวะพักที่วัดคมบาง เช้านี้ออกบิณฑบาตโดยเดินเรียงแถวชิดริมถนน

ก่อนที่รถคันดังกล่าวที่ขับตามหลังมาด้วยความเร็ว จะเสียหลักพุ่งเข้าชน พระทั้ง 3 รูปที่เดินรั้งท้ายแถว ส่งผลทำให้ พระพนัส มรณภาพ และ พระครูประโชติ เจ้าอาวาส และ หลวงตาจันท์ พระลูกวัดได้รับบาดเจ็บ

โดยพระพนัส ที่มรณภาพ เพิ่งจะบวชได้พรรษาที่ 2 กำลังจะเข้าพรรษา 3 หลังจากปลดประจำการทหาร ได้บรรพชาเป็นพระทดแทนพระคุณให้กับพ่อแม่

ด้านแม่ค้าร้านอาหารตามสั่งที่อยู่ฝั่งตรงข้าม เล่าว่า ขณะกำลังเตรียมของเปิดร้าน ได้เห็นขบวนพระธุดงค์เดินผ่านหน้าร้านมุ่งหน้าเข้าตัวเมือง จากนั้นได้ยินเสียงชนดังสนั่น เมื่อหันไปมองพบพระสงฆ์ล้มอยู่ริมถนน

สำหรับ พระธุดงค์ที่เหลืออีก 11 รูป แม้ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อยู่ในอาการตกใจ ได้รับการดูแลจาก พระปลัดนิวัติ พลธัมโม หรือ พระอาจารย์ตุ๊กแก เจ้าอาวาสวัดคมบาง ซึ่งนำรถมารับกลับไปฉันเช้าที่วัด ก่อนจะเดินทางไปเยี่ยมพระสงฆ์ที่ได้รับบาดเจ็บที่โรงพยาบาลต่อไป

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบสวนสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุอย่างละเอียด เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป