เทศบาลนครยะลา เตือนประชาชนขนของขึ้นที่สูง ระดับแม่น้ำปัตตานีวิกฤต
เทศบาลนครยะลา เตือนประชาชนขนของขึ้นที่สูง ระดับน้ำปัตตานีวิกฤต อาจล้นคันตลิ่ง เผยตัวเมืองก็อ่วม น้ำท่วมหนักสุดในรอบ 36 ปี
หลังจากเกิดฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ จ.ยะลา ตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่เขตเทศบาลนครยะลา ที่มีน้ำท่วมหนักในรอบ 36 ปี ประชาชนได้รับความเดือดร้อนกันเป็นจำนวนมาก ล่าสุดประกาศเตือนขนของขึ้นที่สูง เพราะระดับน้ำสายบุรีวิกฤต
ล่าสุดเช้าวันนี้ 28 พ.ย. 2567 ทีมข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่โดยรอบสวนขวัญเมือง เทศบาลนครยะลา ซึ่งเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ พบว่าระดับน้ำล้นจากแอ่งน้ำขึ้นท่วมพื้นถนนสูงประมาณ 30 ซม. และยังมีแนวโน้มสูงขึ้น เนื่องจากฝนยังคงตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา รวมทั้งบ้านเรือนชาวบ้านในบริเวณโดยรอบสวนขวัญเมือง เริ่มได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมกันแล้ว
ส่วนที่ ซอยกอแก้ว หมู่ 9 ตำบลสะเตงนอก อำเภอเมือง จังหวัดยะลา ล่าสุดเช้าวันนี้ ยังพบว่ามีน้ำท่วมขังอยู่รอบบริเวณ แต่ระดับน้ำบนถนนได้ลดลงเล็กน้อย
ขณะที่ เทศบาลนครยะลา ประกาศเตือนผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เขตเทศบาลนครยะลา โปรดขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง ด่วน ระดับน้ำในแม่น้ำปัตตานี วิกฤตสูงที่สุดน้ำอาจจะล้นคันตลิ่ง และระดับน้ำในแม่น้ำปัตตานี เพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ยชั่วโมงละ 12 เซนติเมตร
อย่าไรก็ตาม ทางจังหวัดยะลา ได้เปิดศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดยะลา ศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทานจังหวัดยะลา เพื่อบูรณาการให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดยะลา
ซึ่งส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ จิตอาสา และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ผนึกกำลังบูรณาการในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้าน เข้าไปช่วยเหลือประชาชน ที่ไม่สามารถเดินทางออกมาจากที่พักได้ โดยเฉพาะผู้ป่วยติดเตียง คนพิการ และผู้สูงอายุ กลุ่มเปราะบาง ซึ่งในขณะนี้ได้มีประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง ยกของขึ้นที่สูง ก่อนที่จะอพยพคนออกมา
ทั้งนี้ พบว่าประชาชนยังมีความกังวล ว่าปีนี้อุทกภัยจะหนักกว่าทุกๆปีที่ผ่านมา บางส่วนได้อพยพมาอยู่ที่ศูนย์พักพิงที่ทางราชการได้จัดเตรียมไว้ โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.รามัน และ อ.เมืองยะลา พร้อมได้กำชับทุกส่วนราชการเตรียมพร้อมรับมือช่วยเหลือชาวบ้าน
ซึ่งทุกหน่วยได้มีการเตรียมการอย่างเต็มที่ พร้อมยืนยัน ปีนี้ถึงแม้ว่าเหตุการณ์จะหนักขึ้น แต่ด้วยความร่วมมือของทุกภาคส่วนราชการ และความเข้าใจของประชาชน ทำให้การแก้ไขปัญหา ค่อนข้างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง