ลูกสาวร่ำไห้กอดหมวกพ่อตลอดเวลา รับศพ ร.ต.ท.วิมุตต์ ภรรยาลั่นไม่ต้องห่วงลูกโตหมดแล้ว
รับศพ ร.ต.ท.วิมุตต์ เป็นไปด้วยความโศกเศร้า ลูกสาวกอดหมวกร่ำไห้ตลอดเวลา ขณะที่ภรรยาเข้มแข็ง ลั่นไม่ต้องห่วงอะไร ลูกโตทำงานหมดแล้ว
จากกรณีนายสมศักดิ์ อายุ 75 ปี ข้าราชการบำนาญเมาขับรถเก๋ง ฮอนด้า ซีอาร์วี พุ่งชนรถคันอื่น และพุ่งเข้าชนบริเวณหน้าโรงเรียนบ้านดอนขวาง ถนนเพชรมาตุคลา ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา ทำให้ ร.ต.ท.วิมุตต์ แทนสุโพธิ์ อายุ 57 ปี รองสว.จร.สภ.เมืองนครราชสีมา ซึ่งยืนปฏิบัติหน้าที่อยู่เสียชีวิต และมีผู้บาดเจ็บอีก 9 คน เป็นแม่ค้า 1 คน ผู้ปกครอง 4 คน และเด็กนักเรียนอีก 4 คน มา และมีผู้บาดเจ็บอีก 9 คน เป็นแม่ค้า 1 คน ผู้ปกครอง 4 คน และเด็กนักเรียนอีก 4 คน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อเวลา 15.10 น.วันที่ 24 ธันวาคม 2567 ที่วัดสามัคคี จ.นครราชสีมา เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างเมตตาธรรมสถานได้นำร่างของ ร.ท.ต.วิมุตต์ เข้ามายังบริเวณศาลาของวัด โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนเข้าแถวรอรับร่างของ ร.ต.ท.วิมุตต์ พร้อมกับครอบครัว ที่นั่งรถมาด้วย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำร่างของ ร.ต.ท.วิมุตต์ พร้อมกับธงชาติไทยคลุม เข้ามาภายในศาลา เพื่อประกอบพิธีรดน้ำศพ
ซึ่งบรรยากาศการรับร่างเต็มไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจของครอบครัว ทั้งแม่ ภรรยาและลูกสาว ที่ยังคงทำใจไม่ได้กับการเสียชีวิตในครังนี้ โดยเฉพาะ น.ส.วารุวรรณ แทนสุโพธิ์ อายุ 30 ปี ลูกสาวคนโตที่กอดหมวกกันน็อคของ ร.ต.ท.วิมุตต์ ที่ใส่ไปปฏิบัติหน้าที่ในวันเกิดเหตุ พร้อมกับร้องไห้อยู่ตลอดเวลา
ด้าน นางใจทิพย์ แทนสุโพธิ์ อายุ 57 ปี ภรรยาของร.ต.ท.วิมุตต์ เปิดใจทั้งน้ำตากับผู้สื่อข่าวว่า สามีนั้นไปปฏิบัติหน้าที่อำนวยการจราจร บริเวณที่เกิดเหตุนั้นเป็นประจำ เช้า-เย็น เพื่อคอยนำนักเรียนข้ามถนน ซึ่งเมื่อก่อนนี้อยู่ด้านหน้าบริเวณโรงเรียนอนุบาลเมืองนครราชสีมา ซึ่งปฏิบัติหน้าที่มาเกือบ 10 ปีแล้ว ตั้งแต่ย้ายมาจากจังหวัดสุรินทร์
โดยในวันเกิดเหตุนั้นมีคนมาโทรบอกกับตนว่า สามีประสบอุบัติเหตุ แต่ไม่ได้ยืนยันว่าเสียชีวิตหรือไม่จนตนมารู้ว่าเสียชีวิตแล้วที่โรงพยาบาล ซึ่งหลังเกิดเหตุทางฝ่ายคู่กรณีเขาก็มาพูดคุยด้วย แต่ตนก็ไม่ได้ฟังอะไรจากทางฝั่งเขา เราห่วงแต่คนของเรา ซึ่งตนอยากฝากบอกสามีว่าไม่ต้องห่วงอะไร ไม่ต้องเป็นห่วงลูก เพราะลูกโต และทำงานแล้ว อยากบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วงอะไรแล้ว ทั้งนี้ก็อยากให้ดำเนินคดีกับฝ่ายคู่กรณีให้ถึงที่สุด
ขณะที่ นายเจษฎา เลขจิตร อายุ 55 ปี เพื่อนสนิทของ ร.ต.ท.วิมุตต์ เปิดเผยว่า ตนเองเป็นเพื่อนตั้งแต่สมัยเรียนของ ร.ต.ท.วิมุตต์ ซึ่งผู้ตายมีใจรักในอาชีพตำรวจ จึงได้ไปสอบเข้าเป็นข้าราชการตำรวจ ซึ่งก่อนเกิดอุบัติเหตุเพียงไม่กี่นาที ตนก็เพิ่งทักไปพูดคุยกับผู้ตาย อุบัติเหตุครั้งนี้เป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้น ปัญหาเมาแล้วขับ เป็นปัญหาใหญ่ของสังคม อยากให้ทุกคนช่วยกันตระหนัก และไม่ให้เกิดเรื่องเศร้าใจแบบนี้อีก
สำหรับอาการผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ล่าสุดผู้บาดเจ็บส่วนใหญ่อาการปลอดภัยแพทย์อนุญาตให้กลับไปพักรักษาตัวที่บ้านได้แล้ว เหลือผู้บาดเจ็บอีกเพียง 2 ราย ที่ยังคงนอนรักษาตัวอยู่ที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา คือ น้องเด็กชาย อายุ 5 ขวบ อาการโคม่า รักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู ชั้น 6 อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (ศูนย์อุบัติเหตุและฉุกเฉิน) และ เด็กหญิง อายุ 10 ปี ได้รับบาดเจ็บศีรษะแตก อาการปลอดภัยแล้ว รักษาตัวอยู่ที่ชั้น 4 ห้องศัลยกรรมเด็ก และผู้หญิง อาคารผู้ป่วย 8 ชั้น