News

ชายสักเต็มหน้า พ้อชีวิตล้มเหลว 6 ปียังหางานไม่ได้ จำใจลบรอยสัก เพราะอยากมีชีวิตที่ดี

ชายสักเต็มหน้า พ้อชีวิตล้มเหลว 6 ปียังหางานไม่ได้ จำใจลบรอยสัก เพราะอยากมีชีวิตที่ดี

ชายวัย 24 ปี สักเต็มหน้า พ้อชีวิตล้มเหลว 6 ปียังหางานไม่ได้ จำใจลบรอยสัก เพราะอยากมีชีวิตที่ดี เตือนเป็นอุทาหรณ์วัยรุ่นอยากลอง

เรื่องราวชีวิตของชายชาวจีนวัย 24 ปี ออกมาเล่าประสบการณ์อันแสนเจ็บปวด กลายเป็นความรู้สึกผิดต่อตนเอง ว่า เขาเริ่มสักบนร่างกายเมื่อ 6 ปีก่อน ซึ่งตั้งแต่นั้นมา เขาไปสมัครงานที่ไหนก็ไม่มีใครรับ จนท้อกับชีวิต ตัดสินใจลบรอยสักบนใบหน้าออก เผยเป็นความรู้สึกที่เจ็บปวดมาก วอนเด็กหรือวัยรุ่นอย่าสักตาม

สื่อท้องถิ่นเผยบทสัมภาษณ์ของชายดังกล่าว เขาเล่าว่า ตอนช่วงวัยเด็กเขาเป็นคนค่อนข้างเกเร ต่อต้านสังคมและต่อสู้กับภาวะซึมเศร้า เขาจึงระบายความรู้สึกผ่านรอยสัก เพราะเขาคิดว่าการสักนั้นทำให้เขามีความสุขมากขึ้น

ภาพประกอบ

โดยในปี 2018 ตามร่างกายตั้งแต่ศีรษะ ใบหน้า ลำคอ จนแทบทุกส่วนของร่างกายเต็มไปด้วยรอยสัก หรือแม้กระทั่งม่านตาซ้ายของเขานั้นก็ยังมีการสัก ซึ่งนับตั้งแต่การสักตลอดช่วง 6 ปีที่ผ่านมา เขาใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก เขาหางานทำไม่ได้ ไม่มีใครรับเข้าทำงานเลย จนทำให้ครอบครัวประสบปัญหาด้านการเงินอย่างยิ่ง

นอกจากนี้เขามักจะโดนชาวเน็ตด่าทอ ดูถูกขณะเขาขึ้นไลฟ์สดอีกด้วย เท่านั้นไม่พอการที่ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยสักทำให้มีอุปสรรคต่อการล็อกอินโทรศัพท์ การเปลี่ยน Face ID นั้นยุ่งยากมากๆ มันน่าอายจริงๆ

และเพื่อใช้ชีวิตตามปกติเหมือนคนทั่วไป ชายชาวจีนรายนี้ได้ตัดสินใจ ติดต่อช่างที่มีความเชี่ยวชาญด้านลบรอยสัก เพื่อลบรอยสักบนร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณใบหน้าและแขน ขา โดยเขาเผยว่า ขั้นตอนการเลเซอร์ลบรอยสักนั้นเจ็บปวดแต่ก็ทนได้

ภาพประกอบ

แต่เมื่อไม่นานมานี้เขาเริ่มลบรอยสักบริเวณใบหน้า เขาเผยว่า มันเป็นความรู้สึกเจ็บที่ไม่สามารถบรรยายเป็นคำพูดได้ และทำให้เขามีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ ซึ่งขณะนี้เขาอยู่ในช่วงพักฟื้นแล้ว

ด้านช่างลบรอยสัก เผยกับสื่อท้องถิ่นว่า เขาลบรอยสักมาเป็นเวลา 10 กว่าปีแล้ว แต่เคสนี้ยากที่สุด โดยรอยสักทั่วไปสามารถลบออกได้หมดใน 3-4 ครั้ง แต่รอยสักของเขามีสีเข้มและครอบคลุมพื้นที่กว้าง โดยเฉพาะบริเวณหางตาและต่อมน้ำตา

เนื่องจากบริเวณรอบดวงตาของเขาเป็นบริเวณที่บอบบางมาก ซึ่งการลบรอยสักบริเวณดังกล่าวมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดรอยแผลเป็นได้

ทั้งนี้ เรื่องราวของชายรายนี้ได้กลายเป็นไวรัลไปทั่วโลกโซเชียลจีน ชาวเน็ตส่วนหนึ่งชื่นชมความกล้าหาญของเขาในการเปิดเผยปัญหาของตนต่อสาธารณะ และตัดสินใจแก้ไขข้อผิดพลาดในอดีต พร้อมแชร์เรื่องราวดังกล่าวเป็นอุทาหรณ์เตือนใจวัยรุ่นหนุ่มสาวที่คิดจะเดินตามเส้นทางเดียวกับเขา

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *